จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 แก๊งใหญ่ กัมพูชา 74 ผู้ต้องหาสิ้นท่า เตรียมถูกส่งกลับไทย

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 แก๊งใหญ่ กัมพูชา 74 ผู้ต้องหาสิ้นท่า เตรียมถูกส่งกลับไทย

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กัมพูชา 4 แก๊งใหญ่ สิ้นท่า ตำรวจ PCT ประสาน สถานฃทูตไทยในกรุงพนมเปญ บุกทลาย ตรวจค้น 5 จุดสำคัญ ก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 89 ราย เตรียมส่งตัวกลับดำเนินคดีที่ไทยข่าวทลาย 4 แก๊งแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ของกัมพูชา ได้รับการเปิดเผยโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ตร.( PCT) เมื่อวันที่ 11 ก.ค.65 ภายหลังส่งชุดปฏิบัติการ PCT จำนวนกว่า 20 นาย ประสานงานกับ ตำรวจกับพูชา ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจนนำไปสู่ปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจำนวน 5 จุด ประกอบด้วย

ปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 5 จุด สำคัญ ข่าวทลาย 4 แก๊งใหญ่ คอลเซ็นเตอร์กัมพูชา

จุดที่ 1 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.65 ที่เมืองพระสีหนุ โรงแรมจิงเฉิง อาคาร 12 ชั้น ถ.สองธนู จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 21 หมายจับ ใช้รูปโปรไฟล์คนหน้าตาดีผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ Tinder หลอกลวงให้หลงรัก และชวนลงทุนใน MetaTrader 5 (ฟอเร็กซ์)​ หรือซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยจะให้ทำการเทรด การวิเคราะห์ทางเทคนิค ตามคำแนะนำ และชักชวนให้ลงทุนกับโบรกเกอร์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกให้ลงเงินแต่ไม่มีการลงทุนจริง

จุดที่ 2 วันเดียวกัน ที่เมืองพระสีหนุ คาสิโนโป๋ไหล ถ.ปุโลไว 300 ไม่พบผู้ต้องหา

จุดที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 ที่เมืองพระสีหนุ ประตูแดง จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 18 หมายจับ แอบอ้างเป็น สภ.แหลมฉบัง ที่เมืองพระสีหนุ อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ที่น่าสนใจสามารถจับกุมตัวนายจิรายุ เพิ่มชื่น แอบอ้างเป็น สายที่ 3 ผกก.สภ.แหลมฉบัง ซึ่งถือเป็นผู้ต้องหาสำคัญในคดี

จุดที่ 4 วันเดียวกัน ที่เมืองพระสีหนุ จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้กู้เงินออนไลน์ สภ.เมืองจันทบุรี ที่เมืองพระสีหนุ จำนวน 10 หมายจับ จุดที่ 5 วันที่ 7 ก.ค.65 ที่เมืองปอยเปต จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นบริษัทส่งพัสดุ DHL สภ.ท่าใหม่ ที่เมืองปอยเปต จำนวน 25 หมายจับ

สำหรับ การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้ง 4 แก๊งนี้ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 74 ราย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมายกัมพูชา เช่น กฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ทางกัมพูชาก็จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้กับไทย ซึ่งจะมารับตัวที่ จ.สระแก้ว ในภายหลัง

เปิดข้อมูลบุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตำรวจ PCT เผย จับไปแล้ว 138 จาก 237 หมายจับ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ตำรวจ PCT สามารถออกหมายจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้จำนวน 237 หมายจับ จับกุมได้แล้ว 138 หมาย และอยู่ระหว่างประสานงานติดตามจับกุมอีก 99 หมาย โดยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการหลอกลงทุน (Hybrid Scam)​ เป็นนโยบายเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี​ เนื่องจากเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างมากในขณะนี้

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ ศปอส.ตร. 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com นอกจากนี้ยังได้จัดทำรูปแบบแผนประทุษกรรมของคนร้าย เพื่อให้ประชาชนรับรู้ 

ยืนยันแล้ว ผ้าจากบังแจ็ค ไม่ใช่ ผ้าขาวแตงโม ลั่นเตรียมดำเนินคดีทุกราย

เผยผลตรวจ ผ้าขาวแตงโม ยืนยันว่าไม่ใช่ผ้าของแตงโม ชี้ดินก็ไม่ตรง รอยถูกรีดก็ไม่มี ลั่นเตรียมดำเนินคดีกลุ่มสร้างหลักฐานเท็จ ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าผลตรวจ ผ้าสีขาว ของแตงโม นิดา นักแสดงสาวชื่อดัง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นให้พิสูจน์หลักฐานและพบว่ามีคราบเลือดของชายชาติพันธุ์ยูโรเลียนอินเดียน

โดยว่าที่ รต.ธนกฤต ระบุว่า ผ้าดังกล่าว ไม่ใช่ผืนเดียวกับแตงโม ร่องรอยถูกกรีด ไม่ปรากฎ เส้นผมยืนยันว่าเป็นของผู้ชาย ชาติพันธุ์ยูโรเลียนอินเดียน ดิน ไม่ใช่ดินทรายที่ตรงกับในแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่พบรอยขาดที่ผ้าเหมือนในผ้าของแตงโม พร้อมเปรียบเทียบว่า  ภาพแรกที่ถ่ายไม่มีสีขุ่นมัว แต่เมื่อเปิดออกมา มีความขุ่นเหมือนแช่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง 

“การกระทำของกลุ่มคนดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหาย การสืบสวนมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจำนวนมาก ใครส่งอะไรมา ต้องพิจารณาว่า เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ถ้าทำหลักฐานเท็จขึ้นมา ยันยันว่าจะไม่ปล่อย ดำเนินคดีทุกราย เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนคดี กรรมาธิการ ก็ถือเป็นผู้เสียหาย ควรไปร้องทุกข์กับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายด้วย” ว่าที่้ร้อยตรีธนกฤต กล่าว

ขณะที่ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบไม่พบหลักฐานว่าเป็นการฆาตกรรม โดยเลือดที่ผ้า ไม่ใช่ของ แตงโม และผมที่พบก็ไม่ใช่ของคุณแตงโม รวมทั้งแร่ธาตุที่ติดมากับผ้าก็ไม่ใช่แร่ธาตุที่ตรงกับแม่น้ำเจ้าพระยา

“สิ่งที่นายอัจฉริยะมาร้องนั้น เป็นลักษณะคำร้องที่เลื่อนลอย ไม่มีพยานหลักฐาน มีแต่สิ่งที่เชื่อว่า และคิดเอาเองว่าเป็นอย่างนั้น สิ่งที่ร้องจะเป็นเรื่องที่ดิสเครดิตเจ้าพนักงานสอบสวน เป็นสิ่งที่ไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันใดๆ ประเด็นลักษณะดังกล่าว จะทำให้การสอบสวนเกิดปัญหา เพราะไม่มีหลักฐานมายืนยัน โดยเฉพาะการมาร้องทุกข์บุคคลว่าเป็นคนฆาตกรรม ถือเป็นการหมิ่นประมาท กล่าวหาให้รับความเสียหาย สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้” พ.ต.ท.พเยาว์ กล่าว

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป