มอไซต์ขับวนชนรถยนต์ 2 ครั้ง หลังไม่พอใจรถเปลี่ยนเลน

มอไซต์ขับวนชนรถยนต์ 2 ครั้ง หลังไม่พอใจรถเปลี่ยนเลน

ได้มีการเผยแพร่คลิปหน้ารถยนต์ที่เผยให้เห็นภาพเหตุการณ์ มอไซต์ขับวนชนรถยนต์ ด้วยกัน 2 ครั้ง หลังจากที่ไม่พอใจที่รถยนต์ทำการเปลี่ยนเลนตามปกติ (23 ส.ค. 2565) เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอกล้องหน้ารถยนต์ที่ฉายภาพเหตุการณ์ มอไซต์ขับวนชนรถยนต์ ด้วยกัน 2 ครั้ง หลังจากที่คนขับมอเตอร์ไซต์ไม่พอใจที่คนขับรถยนต์ที่ขับมาตามปกตินั้น ปล่อยให้ตนเองเบียดไปก่อน

โดยทางเพจได้อธิบายประกอบคลิปวิดีโอดังกล่าวว่า 

เอาเข้าไป … จยย. ไม่พอใจรถยนต์เปลี่ยนเลน ขับวนหน้ารถ ก่อนพุ่งชนซ้ำ ซึ่ง น้องทราย รุ่นน้องกุ้งเอง ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่คาดว่าเป็นเจ้าของคลิปดังกล่าว ได้โพสต์พร้อมข้อความระบุว่า “อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้บนท้องถนน … เป็นอุทาหรณ์ เตือนภัย จากรุ่นน้อง วานนี้ จันทร์ที่ 22 ส.ค. 2565 ถนนศรีนครินทร์ คลิปนี้ เป็นคลิปจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง คนจริง สถานที่จริง ทุกอย่างจริงหมด … พิจารณาดูชมกันเอง ดูให้จบนะ เปิดไฟเลี้ยวแล้ว แต่ทำไมยังเบียด และปาดเข้ามาอีก … ขี่รถกันอย่างนี้ ไม่ต้องมีกฎจราจรแล้วหรือเนี่ย จะรีบไปไหน”

คลิปที่ว่านั้นก็ได้แสดงให้เห็นภาพตามที่ได้กล่าวไปว่า เป็นสถานการณ์ที่จักรยานยนต์คันหนึ่งได้พยายามวิ่งเบียดเข้ามาในเลนขวา ที่ซึ่งก็พอดีกับที่รถยนต์ที่บันทึกภาพนั้น กำลังทำการเปลี่ยนเลนตามปกติ โดยได้ทำการเปิดไฟเลี้ยวเพื่อส่งสัญญาณแล้ว แต่จักรยานยนต์คันดังกล่าวก็ยังแทรกเข้ามาจนหลุดออกมาได้แบบเสียศูนย์ไปเล็ก ก่อนที่จะหันมามองรถยนต์พร้อมกับขับวกกลับมาชนด้วยกันถึง 2 ครั้ง แล้วขับหนีไปในที่สุด

หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ก็ได้มีการแสดงวิจารณ์พฤติกรรมของผู้ขับขี่จักรยานยนต์เป็นจำนวนมาก โดยมองว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่อุบัติเหตุ และเป็นเจตนาตั้งใจที่จะสร้างความเสียหาย หรือเสียทรัพย์ ซึ่งก็ถือว่ามีความผิดจริง ทั้งนี้แล้วนั้นยังไม่รวมกับความผิดวินัยทางจราจรที่รถจักรยานยนต์ไม่ควรเข้ามาวิ่งในเลนขวา เรียกได้ว่าต่อให้พาลมากแค่ไหนยังไงก็ผิดอยู่ดี แถมโดนไปเต็ม ๆ 2 กระทงด้วย

เกินไปไหม? ครูถีบอกนักเรียน แถมตบหัว ตบหน้าอีกหลายครั้ง ลงโทษหลังนักเรียนเล่นฟุตบอลภายในห้องเรียน ชาวเน็ตถามเกินไปไหม? เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 โพสต์คลิป ครูถีบอกนักเรียน และตบศีรษะและหน้าอีกหลายครั้ง เพื่อเป็นการลงโทษเด็กนักเรียนชั้น ม.3 ที่เล่นฟุตบอลในห้องภายในโรงเรียนศาสนาแถวทุ่งครุ

ทางเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ระบุว่า “ผู้ปกครองบางท่านเห็นว่าไม่สมควรและไม่เหมาะสมจึงส่งมาถามกับสื่อสังคมช่วยตรวจสอบหน่อย โรงเรียนในทุ่มครุ กทม. อาจารย์เขาทำแบบนี้มาตลอด ตอนนี้ใกล้เกษียณแล้ว นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลย เท่าที่รู้ คือ เด็ก น่าจะ ม.3 ทำผิดโดย เล่นบอลในห้องเรียน ที่ส่งคลิปมาให้ทางเพจ เพราะเห็น อาจารย์ทำไม่ถูกต้องอย่างมาก”

จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวนั้น นายเลิศชาย อายุ 67 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลและติดตามพฤติกรรมนักเรียน ให้สัมภาษณ์ว่า ตนก็เพิ่งจะทราบเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานี่เอง แต่ก็เข้าไปแทรกแซงไม่ได้เพราะว่าตนไม่ได้เป็นครู เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ติดตามพฤติกรรมเด็กที่ไม่ให้ทำผิดกฏของโรงเรียนเพียงเท่านั้น

ยอมรับว่าพฤติกรรมครูถีบอกเด็กไม่เหมาะสมจริง แต่ขอให้รอบทสรุปก่อน และตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการประชุม ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปถึงประเด็นดังกล่าวแน่ชัด

ลูกชายแอบขายวัว ที่แม่สั่งห้าม บ่นน้อยใจ หนีออกจากบ้าน ก่อนพบเป็นศพ

กลายเป็นเหตุสุดเศร้าขึ้นหลัง ลูกชายแอบขายวัว ที่แม่สั่งห้ามขาย แม่บ่นน้อยใจ หนีออกจากบ้าน ก่อนพบเป็นศพลอยอืด 5 วันถัดมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่หลังได้รับรายงานว่าพบศพยายวัย 84 หายปี ที่หายตัวไป หลังจากที่ลูกชายแอบขายวัว ทั้งที่ได้สั่งห้ามไม่ให้ขายจนกว่าตัวเองจะตาย จนทำให้รู้สึกน้อยใจและหายออกจากบ้าน

สภาพศพนั้นนอนหงายลอยขึ้นอืดอยู่กลางสระ สวมผ้าถุง ใส่เสื้อคอกระเช้า ส่งกลิ่นเหม็กไปทั่ว เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วราวๆ 5 วัน

จากการสอบถามน้องของผู้ตาย ได้เล่าว่า ผู้ตายเลี้ยงวัวให้ลูกชายนานหลายรุ่นและขายออกไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันเหลืออยู่สองตัวเป็น แม่-ลูก และตัวเมียกำลังตั้งท้อง ผู้ตายผูกพันกับวัวแม่ลูกคู่นี้มาก รักเหมือนลูก และได้กำชับว่า ห้ามขาย  ถ้าจะขายรอให้ตนตายก่อน

ทว่า ลูกชายที่เดินทางกลับมาจากทำงานที่กรุงเทพฯ ประมาณกลางเดือนที่ผ่านมา ลูกชายแอบขายวัวทั้งสองตัวไปขายในราคา 4 หมื่นบาท และได้ฉลอง ทว่าผู้ตายรู้เข้า และได้บ่นกับเพื่อนบ้านว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่และพบศพในเวลาต่อมา

ด้าน ลูกชายผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ตายหายตัวออกไปตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. แต่ในวันเกิดเหตุเมา จึงไม่ได้ออกตามหา และมาแจ้งผู้ใหญ่ในวันรุ่งขึ้น ก่อนสุดท้ายจะพบศพผู้ตาย นอกจากนี้ลูกชายยังได้เผยด้วยวว่าได้แบ่งเงินแม่ 300 บาท

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง และตรวจสอบว่าการตายครั้งนี้เป็นการฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุ หรือเป็นเหตุอาชญากรรมหรือไม่

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป